ฉนวนใยแก้ว

ฉนวนใยแก้ว (GlassWool Insulation) นวัตกรรมฉนวนกันความร้อนและกันเสียงเพื่อบ้าน อาคาร และโรงงาน

ในปัจจุบัน การเลือกใช้วัสดุฉนวนกันความร้อนและเสียงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบและก่อสร้างอาคาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน สร้างสภาวะน่าสบาย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย หนึ่งในฉนวนยอดนิยมที่ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล คือ ฉนวนใยแก้ว (GlassWool Insulation) ซึ่งโดดเด่นทั้งด้านคุณสมบัติ ความคุ้มค่า และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

ฉนวนใยแก้ว คืออะไร?

ฉนวนใยแก้ว คืออะไร

ฉนวนใยแก้วเป็นวัสดุฉนวนที่ผลิตจากการหลอมเศษแก้วและขวดแก้วรีไซเคิลที่อุณหภูมิสูง แล้วนำมาปั่นเป็นเส้นใยขนาดเล็กด้วยเครื่องจักรพิเศษ ทำให้ได้โครงสร้างเป็นเส้นใยอัดแน่นคล้ายปุยนุ่น มีช่องอากาศขนาดเล็กมากมายที่ช่วยต้านการถ่ายเทความร้อน เสียง และความชื้น จึงเหมาะเป็นฉนวนสำหรับผนัง ฝ้าเพดาน หลังคาในอาคาร งานท่อลมปรับอากาศ ท่อลมครัว สามารถใช้งานได้ในทุกส่วนของตึก

คุณสมบัติเด่นของฉนวนใยแก้ว

ค่าการนำความร้อนที่ต่ำ ช่วยป้องกันความร้อนได้ดี ค่าการดูดซับเสียงที่สูง ช่วยลดการสะท้อนของเสียงในห้อง มีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่าย ไม่สร้างภาระต่อโครงสร้าง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ไม่ลามไฟ ไม่ดูดซับความชื้น ไม่เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีอายุการใช้งานยาวนาน ซึ่งล้วนตอบโจทย์การใช้งานในอาคารได้ดี โดยในแต่ละข้อมีการระบุหน่วยวัดและตัวเลขที่ชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่น่าเชื่อถือประกอบคำอธิบาย

  1. ค่าการนำความร้อนต่ำ (0.032-0.038 W/mK) สามารถป้องกันความร้อนได้ดีเยี่ยม
  2. ค่าการดูดซับเสียงสูง (NRC 0.9-1.0) ช่วยลดการสะท้อนของเสียงภายในห้อง
  3. น้ำหนักเบา (10-64 kg/m3) ติดตั้งง่าย ไม่เป็นภาระต่อโครงสร้างอาคาร
  4. ป้องกันการลามไฟ ไม่ลุกติดไฟ ไม่เป็นองค์ประกอบของการเผาไหม้
  5. ไม่ดูดซับความชื้น ไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อรา แบคทีเรีย
  6. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  7. อายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี คุ้มค่าต่อการลงทุนระยะยาว
คุณสมบัติเด่นของ ฉนวนใยแก้ว

กระบวนการผลิตฉนวนใยแก้ว

ฉนวนใยแก้วจาก Microfiber ผลิตจากเศษแก้วและขวดแก้วรีไซเคิลกว่า 80% มากที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งนำมาบดย่อย คัดแยก และหลอมรวมกับทรายและสารเคมีพิเศษ ที่อุณหภูมิสูงถึง 1,450°C จากนั้นจึงนำมาปั่นเป็นเส้นใยขนาดเล็กด้วยหัวปั่นความเร็วสูง ฉีดสารเคลือบไม่ให้เกาะตัวเป็นก้อน แล้วอบด้วยลมร้อนเพื่อทำให้แห้ง สุดท้ายจึงตัดแต่งให้เป็นแผ่นหรือม้วนตามความหนาที่ต้องการ พร้อมบรรจุและขนส่งไปยังลูกค้า

 
  1. การคัดเลือกวัตถุดิบจากเศษแก้วรีไซเคิลคุณภาพดี 
  2. การหลอมและปั่นเป็นเส้นใยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย 
  3. การเคลือบและอบแห้งด้วยความร้อน ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพ
  4. การตัดแต่ง บรรจุ และจัดส่งสินค้า
กระบวนการผลิตฉนวนใยแก้ว

ซึ่งทุกขั้นตอนคำนึงถึงมาตรฐานสากลและความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน พร้อมกับการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป

ประเภทของฉนวนใยแก้ว

  • ชนิดม้วน (Glass Wool Roll) เหมาะสำหรับฉนวนผนัง ฝ้าเพดาน คาน โครงหลังคา ท่อลมปรับอากาศหรือท่อดักท์ 
  • ชนิดแผ่น (Glass Wool Sheet) เหมาะสำหรับบุผิวผนัง ติดตั้งใต้หลังคา และทำแผงเพดานอคูสติก
  • ชนิดท่อ (Glass Wool Pipe) เหมาะสำหรับหุ้มท่อน้ำร้อนและท่อลมของระบบปรับอากาศ
ประเภทของ ฉนวนใยแก้ว

มาตรฐาน ฉนวนใยแก้ว การทดสอบคุณภาพและความปลอดภัย

ฉนวนใยแก้วจาก Microfiber ได้รับการทดสอบและรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล ที่ฉนวนใยแก้วของ Microfiber ได้รับการรับรอง ไม่ว่าจะเป็น มาตรฐาน FM APPROVAL EN13501-1 CLASS A1  ASTM E84 สำหรับทดสอบคุณสมบัติด้านต่างๆ EUCEB และ RAL สำหรับความปลอดภัยด้านสุขภาพในยุโรป รวมถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมของไทยอย่าง มอก. 486  มอก. 487 และ Green Label ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเมื่อเลือกใช้ฉนวนใยแก้วจาก Microfiber จะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน ดังนี้

  • ASTM C612 และ ASTM C665 มาตรฐานข้อกำหนดสำหรับฉนวนใยแก้ว
  • ASTM C518 มาตรฐานวิธีทดสอบค่าการนำความร้อน
  • ASTM C423 มาตรฐานวิธีทดสอบค่าการดูดซับเสียง
  • ASTM E84 มาตรฐานวิธีทดสอบคุณลักษณะการลามไฟบนผิววัสดุ
  • EUCEB และ RAL ข้อกำหนดความปลอดภัยด้านสุขภาพสำหรับฉนวนใยแก้วในสหภาพยุโรป
  • TIS 486 และ TIS 487 มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทยสำหรับฉนวนใยแก้ว
  • EN-13501-1 Class A1 เป็นมาตรฐานการจำแนกประเภทของวัสดุด้านความต้านทานไฟตามข้อกำหนดของยุโรป (European Standard) Class A1 เป็นระดับที่สูงที่สุด หมายถึง วัสดุที่ไม่ติดไฟ (Non-combustible) และไม่ก่อให้เกิดควันหรือหยดละลายในระหว่างที่โดนไฟเผา
  • FM APPROVAL เป็นการรับรองจาก FM Global (Factory Mutual Global) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ทำการทดสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยและการป้องกันอัคคีภัย หากผลิตภัณฑ์ได้รับ FM Approval หมายความว่าได้ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดเกี่ยวกับไฟไหม้ ความทนทาน และประสิทธิภาพในการใช้งาน
 
มาตรฐาน ฉนวนใยแก้ว การทดสอบคุณภาพและความปลอดภัย

มาตรฐานเหล่านี้นี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าวัสดุหรือผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากไฟไหม้สูง ปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

วิธีการเลือกใช้ฉนวนใยแก้วให้เหมาะสม

ควรพิจารณาในการเลือกใช้ฉนวนใยแก้วให้เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งในแง่ของลักษณะพื้นที่ติดตั้ง ความหนาและความหนาแน่นที่ควรเลือกตามสภาพอากาศ การดูค่าการนำความร้อนและค่าการดูดซับเสียง ไปจนถึงการเลือกวัสดุปิดผิวเพื่อความสวยงามและทนทาน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถกำหนดสเปคของฉนวนได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และได้ประสิทธิภาพสูงสุดตามต้องการ

  • พิจารณาตามลักษณะพื้นที่ใช้งาน เช่น ผนัง ฝ้า หลังคา ท่อ โครงสร้าง 
  • เลือกความหนาและความหนาแน่นตามสภาพอากาศ ระดับอุณหภูมิ และการใช้งาน
  • ดูค่าการนำความร้อน (k-value) ตามความต้องการประหยัดพลังงาน
  • ดูค่าการดูดซับเสียง (NRC) หากต้องการลดเสียงสะท้อนหรือเสียงรบกวน
  • เลือกวัสดุปิดผิวตามความเหมาะสม เช่น ฟอยล์  ผ้าแก้ว หรือไม่มีวัสดุปิดผิว
วิธีการเลือกใช้ฉนวนใยแก้วให้เหมาะสม
วิธีการเลือกใช้ฉนวนใยแก้วในรถยนต์

ขั้นตอนและข้อแนะนำในการติดตั้งฉนวนใยแก้ว

วิธีการติดตั้งฉนวนใยแก้วอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยเริ่มตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ การวัดขนาด การตัดแต่งฉนวน การติดตั้งฉนวนให้แนบสนิทกับโครงสร้าง การปิดทับรอยต่อด้วยเทป ไปจนถึงการเจาะช่องสำหรับงานระบบต่างๆ รวมทั้งข้อควรระวังในการเก็บและกำจัดเศษฉนวน การหลีกเลี่ยงการสูดดมฝุ่น และการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน พร้อมเพิ่มอายุการใช้งานของฉนวนให้ยาวนานที่สุด

  • วัดขนาดพื้นที่ติดตั้งอย่างละเอียด เพื่อกำหนดปริมาณฉนวนที่ต้องใช้
  • ตัดแต่งฉนวนตามขนาดที่วัดไว้ โดยวางแนวให้สนิทกับโครงสร้าง ไม่เว้นช่องว่าง
  • ยึดฉนวนติดกับผนังหรือโครงด้วยกาวหรือตะปูเกลียว โดยเว้นระยะห่างพอสมควร
  • ปิดทับรอยต่อระหว่างแผ่นด้วยเทปอลูมิเนียมกันความชื้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเป็นฉนวน
  • หากมีงานไฟฟ้าหรือประปา ให้เจาะช่องสำหรับร้อยท่อหรือสายไฟก่อนปิดผนัง
  • เก็บเศษฉนวนที่ตัดทิ้งให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงการสูดดมฝุ่นฉนวน สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันระหว่างติดตั้ง
ขั้นตอนและข้อแนะนำในการติดตั้งฉนวนใยแก้ว

ผลงานและความน่าเชื่อถือของ Microfiber

ยกตัวอย่างผลงานและโครงการสำคัญๆ ของ Microfiber ที่ผ่านมากว่า 30 ปี ทั้งอาคารระดับห้าดาวอย่าง ศูนย์การค้าชั้นนำ ตึกที่สูงที่สุดในไทย หรือแม้แต่โรงพยาบาลชั้นนำ สนามบิน และรถไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจจากลูกค้าที่หลากหลาย ความเป็นมืออาชีพ และความสามารถในการรับงานขนาดใหญ่ จึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของโครงการชั้นนำ ในการส่งมอบฉนวนใยแก้วคุณภาพสูง อาทิ

  • โครงการ One Bangkok มิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง
  • อาคาร Rosewood Hotel สุดหรูบนถนนเพลินจิต
  • ศูนย์การค้า Central Ayutthaya
  • คิง เพาเวอร์ มหานคร ตึกที่สูงที่สุดในไทย
  • โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
  • ท่าอากาศยานนานาชาติทั่วประเทศ
  • รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ผลงานและความน่าเชื่อถือของ Microfiber

สรุป

จากคุณสมบัติเด่น มาตรฐานการรับรองระดับสากล และผลงานอ้างอิงจากองค์กรชั้นนำทั่วประเทศ จึงเชื่อมั่นได้ว่า ฉนวนใยแก้วจาก Microfiber เป็นทางเลือกชั้นนำสำหรับงานฉนวนกันความร้อนและเสียงคุณภาพสูง ที่มอบสมรรถนะเหนือระดับในการประหยัดพลังงานและสร้างสภาวะน่าสบายให้กับอาคาร ควบคู่กับความใส่ใจด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม จึงสมควรเป็นวัสดุฉนวนที่ทุกโครงการไว้วางใจเลือกใช้

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฉนวนใยแก้ว สามารถติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก Microfiber ได้ทุกวัน เพื่อให้คำปรึกษาด้านการเลือกใช้งาน การออกแบบ และการติดตั้งที่เหมาะสมกับความต้องการของอาคารแต่ละประเภท พร้อมบริการทั้งก่อนและหลังการขาย
เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของทุกโครงการ ด้วยสุดยอดนวัตกรรมฉนวนอันดับหนึ่งจาก Microfiber

Chill Flow Contact
Chill Flow Line
Chill Flow massage
Chill Flow telephone